รถเมล์สายมรณะ ตอนที่ 2



 ....เมื่อไม่เห็นมีผู้โดยสารกระเด็นไปมา คนขับรถก็คงจะรู้สีกเซ็งขึ้นมา จึงเปลี่ยนท่าโหนบาร์ไปเหยียบคันเร่งแบบเร่งๆหยุดๆ จนกระทั้งถึงป้ายต่อไปที่มีผู้โดยสารกดกริ่ง ซึ่งจะต้องเตรียมร่างกายและจิตใจไวิให้พร้อมแทบจะกลิ้งลงจาก12 รถกันเลยทีเดียว ด้วยท่าเหยียบเบรกแบบกะทันหันถ้านึกภาพไม่ออก ขอให้นึกถึงว่ามีหมาแมวหรือคนกำลังวิ่งตัดหน้ารถแล้วคนขับก็เบรก เอี๊ยด! ทันทีทันใด นั่นแหละ!..แบบนั้นเปียบเลย ที่สำคัญผู้โดยสารจะได้รับอกินนทนาการด้วยการแถมระยะทางให้เล็กน้อยถึงปานกลางด้วยการจอดเลยป้ายรับส่ง ซึ่งใครจะได้รับของแถมเป็นระ-ยะทางมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอารมณ์ของคนขับเป็นหลักถ้าเป็นผู้Eดยสาร1ขาประจำผู้รูลึกรู้ดีถึงลันดาน เอ๊ย..ถึงพฤติกรรมของคนขับประ๓ทนี้ ก็จะรีบมาจ่อที่หน้าประตูรถเอาไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อที่เวลารถจอดป้าย ไม่ใช่สิ...เวลาที่รถจอดเลยป้าย จะได้รีบ กระโดดเชือก ลงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะมิเช่นนั้นอาจเป็นเช่นนี้(เรียงลำดับจากหนักไปหาเบา)

1.    ตายคาที่

2.    บาดเจ็บสาหัสอยู่ในห้องไอซียู

3.    กลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต

4.    นอนหยอดนํ้าข้าวต้มที่โรงพยาบาล

5.    ถลอกปอกเปีกที่พญาผึ้งต้องจ้องกระโดดลงจากรถให้เร็วที่สุด เวลาที่เจ้าคนขับตีนผี (ยอม) จอดให้นั้น ก็เนื่องมาจากประสบการณ์ล้วนๆ

คนขับประเภทนี้จะไม่มีเวลาเพียงพอที่จะรอให้ผู้โดยสารลงจากรถจนหมดก่อนได้ดังนั้น ผู้โดยสารที่ต้องการจะลงจากรถ จะต้องจ้องมองพื้นถนนที่จะกระโดดลงไปไว้ให้ดีเสียก่อนแม้ว่ารถจะไม่ทันจอดนิ่งๆ ก็ตาม ขอให้รีบก้าวขาข้างหนึ่งรอไว้ก่อนแต่ขอเตือนอีกนิด สำหรับผู้โดยสารมือใหม่ ที่เพิ่งมาใช้บริการ บาร์โหนติดประตูราคา คนขับรถเมล์สายมรณะนี้ ช่วงที่มาจ่อคิวที่หน้าประตูรถจะต้องใช้มือทั้งลองข้างเกาะราวไว้ให้แน่นๆ เพราะแรงจากการเบรกอย่างกะทันหันเหมือนมีหมาวิ่งดัดหน้ารถนั้น จะทำให้ผู้โดยสารเสียการทรงตัวอย่างมาก อาจจะพลัดตกลงไปได้รับบาดเจ็บ แข้งขาหัก หรือเด๊ดสะมอเร่ได้แต่ถ้าใครที่เคยกระโดดรั้ว กระโดดเชือกอยู่บ่อยๆก็คงเอาตัวรอดลงจากรถเมล์ที่มืคนขับประเภทนี้ได้อย่างปลอดภัย ส่วนผู้โดยสารที่จะขึ้นมาใหม่ ถ้าชะตาขาดอุย!.โทษ ถ้าโชคไม่ดี ก็อาจจะก้าวขาได้เพียงข้างเดียวรถก็กระชากเกียร์ออกไปแล้ว ขึ้งอ้นนี้ก็ด้องลุ้นเอาเองว่ากุศลผลบุญที่ได้ทำมาทั้งจากชาตินี้และชาติก่อนจะย้อนมาช่วยให้แคล้วคลาดจากเหตุการณ์ก้าวขาขึ้นรถไม่ทันแล้วตกลงมาตายหรือพิการหรือไม่พญาผึ้ง มักจะจ่อคิวเตรียมกระโดดลงรถได้เป็นคน14แรกๆ อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็มีอยู่เหมือนกันที่เสียแซมป็ อันเนื่องมาจากซื้อของเยอะไปหน่อย ทำให้มือทั้งสองข้างไม่ว่าง พอก้าวขึ้นรถได้ก็รีบหา ที่โหนบาร์ ยืนที่ปลอดภัยที่สุดพร้อมกับวางของไว้กับพื้นรถ จากนั้นก็หาที,เกาะที1โหนให้แน่นหนาเพราะรู้แล้วว่าได้ตัดสินใจผิดพลาดขึ้นรถเมล์เจ้าเก่าสายมรณะเข้าให้แล้วแล้วก็เป็นไปตามคาด คนขับซาดิสม์ประกาศศักย-ภาพตีนผีให้เห็นเป็นขวัญตาด้วยการสไลด้โค้งตรงสี่แยกก่อนจะห้อตะบึงปาดซ้ายแซงขวาให้หัวใจเต้นแรงแทนการออกกำลังกาย แถมได้รับคำอวยพรขอให้คนขับรถเมล์สายมรณะนี้ ไปลงนรกอเวจีโดยเร็ว จากรถศันอื่นๆ ที่ตะโกนมาให้ได้ยินเป็นระยะๆพอใกล้จะถึงป้าย พญาผึ้ง จึงก้มลงไปเก็บบาร์โหนทำเอง ข้าวของที่พื้น แต่ก็ไม่สามารถจะทำได้ง่ายๆ เพราะไหนรถจะวิ่งส่ายไปส่ายมาเป็นงูเลื้อย ไหนจะความเร็วของรถที่กำลังวิ่งแข่งกับรถเมล์มรณะอีกศันที่คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนกันในช่วงที่ถนนกำลังโล่ง พวกคนขับสองคนก็คงจะนึกว่าเป็นสนามแข่งรถไปเสียแล้วพญาผึ้งแทบจะร้องไห้เพราะยังไม่ได้จ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต เกรงว่าหากตายไปในช่วงนั้นคนที,อยู่ข้างหลังจะเดือดร้อนไม่มืเงินเป็นค่าทำศพนั่นเอง 

“ฉันยังไม่อยากตายตอนนี้นะ ขับให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม’’ 

พญาผึ้งรวบรวมความกล้าตะโกนออกไปด้วยความกลัวผสมแรงโมโห

“นั่นน่ะสิ รีบไปเผาศพพ่อมันที่วัดไหนวะ”

คุณป้าคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ช่วยผสมโรงด่าอีกคนแต่ไม่มีทีท่าว่าคนขับจะสะทกสะท้าน กลับเร่งความเร็วเหยียบคันเร่งหนักกว่าเดิม เข้าทำนองยิ่งด่าเหมือนยิ่งยุ

“พี่ใจเย็นๆ เดี๋ยวพอถึงป้ายผมจะส่งของให้เอง”

เสียงคนเก็บสตางคัในรถตะโกนบอก ดูทำทางแล้วก็คงจะไม่เห็นด้วยกับคนขับตีนผีลักเท่าไร แต่คงจะเข้าทำนอง บาร์โหนติดประตูยี่ห้อไหนดี เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ จึงไม่สนใจที่จะว่ากล่าวตักเตือนคนขับแทนผู้โดยสารพอถึงป้ายที,จะลง ก็เป็นไปตามคาดไม่มืการจอดให้ที่ป้าย แม้คุณป้าคนทีจะลงพร้อมกับพญาผึ้งจะกดกริ่งรัวอย่างไม่ยั้งมือเพี่อให้จอดก็ตาม

“หูแตกรีไงวะ ชั้นกดกริ่งให้จอดก่อนถึงป้ายตั้งนานแล้ว ทำไมแกไม่จอดวะ..”

ป้าแกตะโกนด่าคนขับอย่างเหลืออด คราวนี้ได้ผลเจ้าคนขับเหยียบเบรกกึกกะทันหัน เสียงดังสนั่นหวั่นไหว......


บาร์โหน

ความคิดเห็น