รถเมล์ สายมรณะ ตอนที่ 2 ตอนจบ



....ทำเอาคนแถวนั้นหันมามองกันเป็นแถว คงนึกว่ามีอุปติเหตุร้ายแรง ในขณะที'พญาผึ้งกับป้าคนนั้นหัวซนกันโปิกจากการที่รถเบรกกะทันหันและเป็นไปตามคาดการณ์คือไม่มีการจอดให้ที่ป้าย แต่จอดเลยป้ายไปอีกเกือบถึงอีกป้ายหนึ่งซึ่งเป็นระยะทางที,ไกลพอสมควร เป็นการหวังดีแบบประสงค์ร้ายกลั่น-แกล้งผู้โดยสารให้ได้เดินออกกำลังกายแก้เซ็ง หรือจะเรียกว่าเป็นการ โหนบาร์เพิ่มกล้าม ลงโทษผู้โดยสารที่บังอาจต่อว่าคนขับก็ได้“

ไอ้sonteen..(กรุณาอ่านออกเสียงภาษาไทย)จะรีบไปลงนรกขุมไหนวะ จอดให้กูเสียไกลป้ายแบบนี้ไดไงวะ”

ป้าแกด่าทิ้งท้ายหลังจากเท้าแตะพื้นดินเรียบร้อยแล้ว (ไม่กล้าด่าบนรถ กลัวจะถูกแถมระยะทางเพิ่มให้อีก 2ป้าย)

“อุตส่าห์แถม เครื่องออกกำลังกายลดหน้าท้อง ให้อีกป้ายแล้วยังไม่พอใจอีก วันหลังไม่จอดรับชะเลย..เรื่องมาก!”

คนขับเอี้ยวตัวมาตะโกนตอบโต้ป้าแก ก่อนจะกระชากเกียร์รถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนู

“ไอ้เวร!..ทำกับผู้โดยสารแบบนี้ใซได้ที่ไหนวะนี่พวกเธอ เมื่อกี้มีใครจำเบอร์รถม้นได้บ้าง ชั้นจะโทร17พญาผึ้ง ไปฟ้องไอ้บานั่น เจ็บใจนัก อู้ย..หัวก็โนด้วย..”

ทุกคนที่ลงรถมาพร้อมกับป้าแก ต่างก็ส่ายหัวไปมาอย่างไม่ใส่ใจ

“พวกเธอนี่ไม่ไหวเลย ทนกันได้ยังไง นี่ซั้นเพิ่งจะได้ขึ้นรถเมล์แบบนี้เป็นครั้งแรกยังอยากจะจัดระเบียบรถเมล์พวกนี้เลย”

ป้าแกกล่าวเชิงตำหนิพวกเราที่ลงป้ายเดียวกับแก

“ก็ทนจนชินแล้วล่ะค่ะ มีคนโทรไปฟ้องไม่รู้กี่ราย ก็ยังเห็นเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”

มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งหันไปบอกป้าแกเอาบุญ แกก็เลยเดินคอตกออกไป บาร์โหนเหล็ก  รวมทั้งพญาผึ้งด้วยทำไงได้ล่ะ..เราไม่ได้เกิดมาเป็นลูกเศรษฐี ก็ต้องทนโหนรถเมล์ไปจนตายน่ะแหละวันไหนโบกรถเมล์ได้คนฃับดีมีมารยาทก็โชคดีไปวันไหนซวยก็ต้องเสี่ยงขึ้นรถเมล์สายมรณะเจ้าเดิม ขืนหยิ่งไม่ขึ้น ก็ไปทำธุระปะปังไม่ทัน เสียการเสียงานทุกวันนี้พญฟาผึ้งก็ได้แต่ถือเสียว่าอีกไม่นานคน,ขบรถเมล์ (ตีนผี) คงจะขบรถพาพญาผึ้งไปสู่สุคติ(ตาย) สักวัน จะได้สิ้นเวรสิ้นกรรมไปเกิดใหม่ในประเทศที่พัฒนาแล้วเสีย
 ที เฮอ!..

บาร์โหน

ความคิดเห็น